Last updated: 9 ก.ย. 2566 | 830 จำนวนผู้เข้าชม |
จอ TV มี่กี่แบบ?
ก่อนที่จะไปดูกันว่าจอมีกีประเภท ผมต้องบอกว่าจอที่พูดถึงนี้คือ จอของทีวีซึ่งบอกเลยว่ามีหลายรุ่นจนตามกันไม่หมดเลยทีเดียว ในบทความนี้เราจะพูดถึงจอทีวีของแบรนด์ดังอย่าง LG กันก่อน โดยที่ทีวีของ LG จะมีหลักๆอยู่ 4 แบบ คือ UHD, NANOCELL, QNED, OLED นั่นเอง
UHD TV หรือ Ultra High Definition Television หมายถึง LED ทีวีความละเอียดสูงระดับ 4K โดยความละเอียดของภาพที่มี 3,840 x 2,160 pixels และความละเอียดภาพกว่า 8,294,400 pixels ซึ่งมากกว่าภาพความละเอียดสูงมาตรฐานอย่าง FHD หรือ Full HD (1080p) ถึงสี่เท่า ซึ่งยิ่ง pixel มากขึ้น จะทำให้รอยหยักของภาพเล็กลง สีต่อพิกเซลเล็กลงทำให้ได้ภาพที่คมชัดขึ้นทำให้เหมาะสำหรับการรับชมความสนุกในบ้านหรือการรับชมหนังในระบบโฮมเธียเตอร์
Nanocell เป็นเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงคุณภาพของจอแบบ LCD (Liquid Crystal Display) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแสดงผลที่ใช้หลักการของคริสตัลลิควิตธรรมดา และแสงหลอด LED ในการส่งผ่านคริสตัลเพื่อแสดงภาพ
หน้าจอ Nanocell มีความแตกต่างกับหน้าจอ LCD แบบปกติในเรื่องของการกรองแสงและสี ในจอ Nanocell มีชั้นของนาโนคริสตัลที่เรียกว่า "Nanocells" ที่ถูกวางไว้เพื่อปรับปรุงคุณภาพสี และช่วยเพิ่มความสว่างของสีที่แสดงผลบนหน้าจอ นาโนคริสตัลเหล่านี้ช่วยกรองแสงและเพิ่มความคมชัดของแสง และสี เช่น ชัดเจนขึ้นและสีสันที่สมจริงมากขึ้น
QNED หรือ Quantum Dot Nanocell LED เป็นจอที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ผสมผสานระหว่างการใช้เทคโนโลยีควอนตัมดอต (Quantum Dots) และนาโนเซลล์ LED (Nanocell LED) เข้าด้วยกัน ทำให้การแสดงผลภาพมีคุณภาพและสีสันที่สดขึ้น ซึ่ง QNED เป็นเทคโนโลยีนาโนที่มีขนาดเล็กและสามารถเปลี่ยนแสงจากแหล่งพลังงาน ไปสู่สีที่แตกต่างกันได้ชัดเจนขึ้น
ควอนตัมดอต (Quantum Dots) เป็นเทคโนโลยีนำมาแก้ไขข้อจำกัดของจอที่ใช้ LED/LCD Panel โดยใช้สารเรืองแสงที่ขนาดต่างกันกรองสีที่ความยาวคลื่นต่างกันจาก LED/LCD Panel ทำให้สามารถปรับสีและความเข้มของแสงเพื่อสีสันที่สมจริงมากขึ้น และเพิ่มความสว่างของจอไปอีกขั้น
นาโนเซลล์ LED (Nanocell LED) เป็นเทคโนโลยีการเคลือบฉาบหน้าจอ LED TV แบบ Super UHD ด้วยการใช้แผ่นฟิล์ม Polarized ซึ่งซับคลื่นแสงที่ไม่จำเป็น ทำให้แสดงแสงสีที่สมจริง ตรงความต้องการของผู้รับชมมากขึ้น
การผสมผสาน Quantum Dots และ Nanocell LED ในเทคโนโลยี QNED ทำให้เกิดการแสดงภาพที่มีความสว่างขึ้นเป็นอย่างมาก รวมถึงสีสันที่คมชัด และต่อเนื่อง ทำให้ภาพที่ได้มีความสมจริง และทำให้ผู้รับชมเข้าถึงสื่อนั้นๆได้เป็นอย่างจุใจ
OLED หรือ Organic Light-Emitting Diode เป็นจอที่ใช้เทคโนโลยีการแสดงผลจากแผ่นฟิล์มที่เรียกว่า Electroluminescence และไม่มี Back Light ให้แสงสว่าง ซึ่งจอ OLED จะให้สีที่ตรงและคมชัดกว่าจอ LED รวมถึงไม่เปล่งแสงออกมาในจุดที่เป็นสีดำ ทำให้สีดำในจอมีความเข้มขึ้น ช่วยประหยัดพลังงาน และยังออกแบบให้มีความโค้งได้ ทำให้จอ OLED ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ยังมีจอรุ่น OLED Evo หรือก็คือ จอ OLED รุ่นปรับปรุงใหม่ จอรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแสง และคุณภาพการแสดงผลของหน้าจอ OLED มากขึ้น ทำให้หน้าจอแสดงผลสามารถให้สีสันและความคมชัดที่มากขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของสีเขียว และสีแดงถ้าเปรียบเทียบกับจอ OLED ปกติ นอกจากนี้ รุ่น OLED Evo ยังได้รับการปรับปรุงทำให้สามารถแสดงเฉดสีต่างๆได้อย่างแม่นยำ และมีความเข้มของแสงมากขึ้นไปอีกด้วย
ข้อดีของ OLED คือจะบาง เบา และมีความยืดหยุ่นมากกว่าจอ LCD ทำให้สามารถทำจอใหญ่ได้ มีความปลอดภัยสูง และให้ความสว่างได้มากกว่าปกติ แต่ส่วนที่เป็นสีดำก็ดำสนิทเช่นกัน และยังมองได้กว้างถึงเกือบ 180 องศาเลยทีเดียว แต่ก็มีข้อเสีย คือ ห้ามโดนน้ำหรือความชื้นเด็ดขาดนะ เพราะจะทำให้จอเสียหายได้ง่ายกว่าปกติ และราคาที่สูงกว่าแบบอื่นๆอีกด้วยข้อดีของ OLED คือจะบาง เบา และมีความยืดหยุ่นมากกว่าจอ LCD ทำให้สามารถทำจอใหญ่ได้ มีความปลอดภัยสูง และให้ความสว่างได้มากกว่าปกติ แต่ส่วนที่เป็นสีดำก็ดำสนิทเช่นกัน และยังมองได้กว้างถึงเกือบ 180 องศาเลยทีเดียว แต่ก็มีข้อเสีย คือ ห้ามโดนน้ำหรือความชื้นเด็ดขาดนะ เพราะจะทำให้จอเสียหายได้ง่ายกว่าปกติ และราคาที่สูงกว่าแบบอื่นๆอีกด้วยโดยสรุปจอแบบ OLED จะให้ภาพที่สีสันสมจริง สดใส คมชัด และสีดำดำสนิท ไม่มีแสงจ้า เหมาะสำหรับการรับชมกีฬา และภาพยนตร์แอคชันเนื่องจากการตอบสนองที่รวดเร็ว
20 ก.ค. 2566
24 ก.ค. 2566